การเปรียบเทียบระหว่างบุหรี่ซองกับบุหรี่ไฟฟ้าในปริมาณที่เทียบเท่ากัน
ผลลัพธ์ที่ทำให้คุณต้องตกใจ!! กับการทดลองอย่างง่าย
บุหรี่ไฟฟ้าคือ
บุหรี่ไฟฟ้าคือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชนิดหนึ่งซึ่งใช้แบตเตอรี่ในการทำงานเพื่อสร้างความร้อนและไอน้ำที่
ประกอบไปด้วยสารต่าง ๆ เช่น นิโคติน (Nicotine) โพรไพลีนไกลคอล (Propylene Glycol)
กลีเซอรีน (Glycerine) สารแต่งกลิ่นและรส (Flavoring) และน้ำ
เมื่อเปิดเครื่องจะมีการทำงานของแบตเตอรี่ เกิดความร้อนทำให้น้ำยาที่บรรจุอยู่ภายในระเหยขึ้นมาเป็นควัน
เมื่อสูบเข้าไปในปอดร่างกายจะได้รับนิโคตินก่อนที่จะถูกพ่นออกมา ไม่มีควันจากการเผาไหม้เหมือนบุหรี่ปกติทั่วไป
บุหรี่ไฟฟ้าจึงไม่มีส่วนประกอบของน้ำมันดินหรือทาร์ (Tar) และคาร์บอนมอนอกไซด์ (Carbon Monoxide)
ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งและโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
ประเภทของบุหรี่ไฟฟ้า
บุหรี่ไฟฟ้าในปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบ แต่แบ่งได้ 3 รูปแบบคือ แบบที่ 1 (Cigalike) แบบที่ 2 (eGos) และแบบที่ 3 (Mods) โดยมีรายละเอียดดังนี้
- บุหรี่ไฟฟ้ารูปแบบที่ 1 หรือที่รู้จักกันในชื่อ Cigalike มีรูปลักษณ์ภายนอก ทั้งรูปทรงและขนาดที่คล้ายกับบุหรี่ปกติทั่วไป แต่จะมีตัวที่ทำให้เกิดไอและความร้อนเพิ่มเข้ามา
- บุหรี่ไฟฟ้ารูปแบบที่ 2 หรือที่รู้จักกันในชื่อ eGos มีลักษณะคล้ายบุหรี่ปกติทั่วไปเช่นกัน แต่มีขนาดใหญ่กว่า หรือมีรูปทรงที่แตกต่างกันออกไป
และมีตัวถังที่สามารถถอดออก และเติม E-Liquid หรือ E-Juice ที่มีระดับนิโคติน หรือรสและกลิ่นต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง
- บุหรี่ไฟฟ้ารูปแบบที่ 3 หรือที่รู้จักกันในชื่อ Mods มีลักษณะคล้ายบุหรี่ไฟฟ้าแบบ eGos แต่มีขนาดใหญ่กว่า และสามารถปรับแรงดันไฟฟ้า ขนาดของตัวที่ทำให้เกิดไอและความร้อน
รวมถึงขนาดและปริมาณของ E-Liquid หรือ E-Juice ได้ตามความต้องการของผู้ใช้แต่ละคน
ข้อดีของการใช้บุหรี่ไฟฟ้า
บุหรี่ไฟฟ้ามีข้อดีที่แตกต่างจากการใช้บุหรี่ปกติทั่วไป เช่น บุหรี่ไฟฟ้าไม่มีควันจากการเผาไหม้เหมือนในบุหรี่ปกติทั่วไป
ทำให้บุหรี่ไฟฟ้าไม่มีส่วนประกอบของน้ำมันดินหรือทาร์ (Tar) และคาร์บอนมอนอกไซด์ (Carbon Monoxide) หรือสารพิษอื่น ๆ
ที่เป็นสาเหตุให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งปอด โรคหัวใจ โรคเส้นเลือดในสมองแตก และโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
นอกจากนี้ ยังตรวจพบสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกายในระดับที่ต่ำกว่าบุหรี่ปกติทั่วไปอีกด้วย
กระทรวงสาธารณสุข ประเทศอังกฤษได้เปิดเผยหลักฐานเกี่ยวกับการใช้บุหรี่ไฟฟ้าว่ามีความปลอดภัยมากกว่าการใช้บุหรี่ปกติทั่วไปสูงถึง 95% และมีประสิทธิภาพในการช่วยให้เลิกพฤติกรรมการสูบบุหรี่ได้
สาเหตุสำคัญคือในบุหรี่ไฟฟ้าไม่มีส่วนประกอบของใบยาสูบ มีเพียงนิโคตินที่เป็นสารเสพติดแต่ให้โทษน้อยกว่าใบยาสูบ ทำให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นทางเลือกหนึ่งของผู้ที่เสพติดนิโคติน
ข้อเสียของการใช้บุหรี่ไฟฟ้า
ใบยาสูบคือสิ่งที่ทำให้บุหรี่ปกติทั่วไปแตกต่างจากบุหรี่ไฟฟ้า แต่นิโคตินยังคงเป็นส่วนประกอบหลักในบุหรี่ไฟฟ้าและเป็นสารเสพติดที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย เช่น กระตุ้นสมอง ทำให้เกิดอาการมึนงง กระตุ้นหัวใจทำให้อัตราการทำงานของหัวใจเพิ่มขึ้น หัวใจทำงานหนัก
เกิดภาวะหัวใจวาย ทำให้เส้นเลือดหดตัวซึ่งส่งผลให้เกิดความดันในเลือดสูงขึ้น เส้นเลือดในสมองแตก ปัญหาต่อระบบทางเดินหายใจ หายใจเร็ว เสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งปอด มีความผิดปกติทางอารมณ์ สมาธิและความคิด ปัญหาของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เป็นต้น
ทำไมถึงต้องหันมาใช้บุหรี่ไฟฟ้า
การสุบบุหรี่โดยปกติแล้วหากเป็นการสูบในที่สาธารณะ ผู้สูบอาจจะถูกมองด้วยสายตารังเกียจ เพราะกลิ่นและควันของบุหรี่เป็นพิษต่อคนที่อยู่รอบข้าง เปรียบเสมือนผู้สูบบุหรี่มือสอง ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวข้องกับบระบบทางเดินหายใจ เราจะสังเกตเห็นว่าผู้ที่สูบบุหรี่ติดต่อกันเป็นเวลานาน มักจะเกิดปัญหาโรคหอบหืด หายใจไม่สะดวก ตามติดมาด้วยโรคมะเร็งปอดและถุงลมโป่งพอง ซึ่งค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นนั้นค่อนข้างสูง และโอกาสที่จะรักษาให้หายยากมาก ปัจจุบันมีการแก้ปัญหาสำหรับผู้ที่ติดบุหรี่ให้ค่อยๆเปลี่ยนจากการสูบบุหรี่ธรรมดามาสูบบุหรี่ไฟฟ้า เนื่องจากมีข้อดีที่มากกว่าบุหรี่ทั่วไปหลายข้อ
การสูบ บุหรี่ไฟฟ้า ถึงแม้ว่าหลายคนอาจจะมองว่าไม่ค่อยดี เพราะถึงแม้ว่าจะเปลี่ยนจากบุหรี่ทั่วไปมาเป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์แล้ว แต่ก็เรียกได้ว่ายังเป็นการสูบบุหรี่อยู่ดี ในทางกลับกันสำหรับผู้ติดบุหรี่การเปลี่ยนมาใช้บุหรี่ประเภทนี้
ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ เพราะเขาจะมีโอกาสเลิกสูบบุหรี่ได้ถึงเกือบๆ 90 % และเมื่อเลิกได้ โอกาสที่จะกลับไปสูบอีกครั้งก็จะมีน้อย จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจในการเลิกบุหรี่เลยทีเดียว